รีวิวอนิเมะ The Dragon Prince (2018)

  • ชื่อเรื่อง The Dragon Prince
  • ปีที่ฉาย 2018
  • ประเภท Serie
  • แนว Animation, Action, Adventure

The Dragon Prince กลับมาอีกครั้งบน Netflix ในวันนี้สำหรับซีซันรองสุดท้าย ตอนนี้สามารถสตรีมตอนใหม่ได้ 9 ตอนแล้ว เนื่องจากเราเข้าใกล้ตอนจบของ Mystery of Aaravos มากขึ้นทุกที ฉันคาดว่าผู้ชมหลายคนจะดูรวดเดียวจบภายในวันเดียว แต่ส่วนแรกของรีวิวนี้ไม่มีการเปิดเผยเนื้อเรื่อง นอกจากจะปูเรื่องก่อนซีซัน 6 นอกจากนั้น ฉันยังมีคำเตือนเกี่ยวกับการเปิดเผยเนื้อเรื่องในส่วนสุดท้าย ซึ่งฉันจะพูดถึงเรื่องสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในซีซันนี้

The Dragon Princeเข้าฉายทาง Netflix ครั้งแรกในปี 2018 โดยเป็นเรื่องราวของกลุ่มนักผจญภัยและพันธมิตรที่ไม่มีใครคาดคิด ซึ่งออกเดินทางเพื่อนำสันติสุขมาสู่อาณาจักรของมนุษย์และเอลฟ์ เป็นเวลานานหลายยุคหลายสมัยที่ทวีปตะวันตกและตะวันออกถูกแบ่งแยก เอลฟ์ มังกร และสิ่งมีชีวิตวิเศษอื่นๆ อาศัยอยู่ทางตะวันออก ซึ่งเรียกว่า Xadia ส่วนมนุษย์อาศัยอยู่ในอาณาจักรทั้งห้าที่ไม่มีเวทมนตร์ทางตะวันตก ต่างจากเอลฟ์ที่สามารถใช้เวทมนตร์ดั้งเดิมได้ เช่น เข้าถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ มหาสมุทร ดวงดาว และอื่นๆ มนุษย์เรียนรู้เพียงวิธีใช้เวทมนตร์ดำเท่านั้น ซึ่งต้องใช้ชีวิต

หลังจากที่นักฆ่าเอลฟ์เงาจันทร์โจมตีกษัตริย์แห่งอาณาจักรมนุษย์แห่งคาโทลิส เจ้าชายเอซราน (ซาชา โรเจน) และคัลลัม (แจ็ค เดอ เซนา) น้องชายต่างมารดาของเขาออกเดินทางเพื่อนำไข่ของเจ้าชายมังกรกลับไปหาแม่ที่ซาเดีย พวกเขามีเรย์ลา (พอล่า เบอร์โรวส์) ร่วมเดินทางในภารกิจนี้ด้วย ซึ่งถือเป็นพันธมิตรระหว่างมนุษย์และเอลฟ์ครั้งแรกในรอบหลายพันปี ในไม่ช้า ไข่ก็ฟักออกมา และอาซิมอนเดียส หรือที่รู้จักกันในชื่อซิม ก็ถือกำเนิดขึ้น และผูกพันกับเอซรานทันที

ติดตามต่อได้ที่ ดูหนังออนไลน์